(รายงานพิเศษ)  คำถามจากคนจะนะถึงความคืบหน้าของเมืองต้นแบบที่ 4

(รายงานพิเศษ)  คำถามจากคนจะนะถึงความคืบหน้าของเมืองต้นแบบที่ 4

 

 

มีโอกาสได้ลงพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อติดตามความคืบหน้าของโครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4” หรือ”เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ซึ่ง เอกชนผู้ลงทุน บริษัท มหาชน ขนาดใหญ่ของประเทศไทย 2 รายเป็นผู้ลงทุนในวงเงิน 600,000 ล้าน
นั่นคือ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด มหาชน และ บริษัท ไออาร์พีซี ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนของ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ซึ่ง แม้ว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) จะได้มีขบวนการในการให้ความรู้ความเข้าใจ และรายละเอียดของ อุตสาหกรรม ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 ตำบล ของ อำเภอ จะนะ คือ ต.นาทับ ต.สะกอม และ ต.ตลิ่งชัน แล้ว
ว่า อุตสาหกรรมที่จะ เกิดขึ้น หรือจะตั้งอยู่ในพื้นที่ จะเป็น อุตสาหกรรมที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นการผลิต ชิ้นส่วนทางการแพทย์ เป็นอุปกรณ์รถไฟฟ้า รถไฟ อาหารฮาลาล ผลผลิตจากการเกษตร โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซ และ ชีวะมวล และ ฯลฯ


ส่วนสำคัญคือ ท่าเรือน้ำลึก เพื่อการเป็น “เกตเวย์” หรือ ประตูทางออก ของการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศแห่งที่ 2 ของประเทศ และเป็นท่าเรือน้ำลึก แห่งที่ 2 ของ จ.สงขลา ที่เป็น”ท่าเรือน้ำลึก” ที่แท้จริง
แต่ เพราะความไม่ต่อเนื่อง ของขบวนการทำความเข้าใจ ที่ยัง ขาดๆ เกินๆ ก็ทำให้ กลุ่มคนบางกลุ่ม ยังไม่สบายใจ และยังต้องการความมั่นใจ และต้องการฟังข้อมูลเพื่อความมั่นใจมากขึ้น
กลุ่มที่ยังต้องการความมั่นใจ ว่า อุตสาหกรรม ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ 3 ตำบล ในอนาคต ต้องไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเขาคือ กลุ่มผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียง
โดยตัวแทนของผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียง ที่เป็นตัวแทนของผู้มีอาชีพ เลี้ยงนกเขาชวาเสียงใน อ.จะนะ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีการเกิดขึ้นของ โรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น โรงไฟฟ้าทั้งโรงที่ 1 โรงที่ 2 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย


และการเกิดขึ้นของ โรงงานแยกก๊าซ ไทย-มาเลเซีย ของบริษัท
ทรานส์ไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง กระปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และ บริษัทเปโตรนาส ของประเทศมาเลเซีย
เอ็นจีโอ ก็จะบอกกับชาวบ้านว่า จะเกิดมลภาวะทางอากาศ ทางเสียง และอื่นๆ ที่เป็นปัญหากับผู้ที่เลี้ยงนกเขาชวาเสียง เพราะจะทำให้นก ป่วย นกเขาไม่ขัน และ ไข่ที่ฟักจะลีบ ฟักไม่ออกเป็นต้น
แต่..สุดท้าย คนเลี้ยงนกเขาชวาเสียง ก็เชื่อว่า สิ่งที่ เอ็นจีโอ ให้ข้อมูล ไม่น่าเชื่อถือ เพราะ ทั้งโรงแยกก๊าซ และ โรงไฟฟ้า ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.จะนะ ไม่มีผลเสียต่อการ เลี้ยงนกเขาชวาแต่อย่างใด
ยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่า มีนกเขาตาย เพราะได้รับมลภาวะจาก โรงงาน หรือ มีนกเขาที่ไม่ขัน เพราะสิ่งแวดล้อม ที่มาจากโรงงาน และยังไม่มี ฟาร์มนกเขา แห่งไหน ในพื้นที่ ได้รับผลกระทบ จนมีการเรียกร้องความเสียหายจากโรงงานในพื้นที่


แต่… นั่นหมายถึง โรงงานแค่ ไม่กี่โรงที่ตั้งอยู่ จึงไม่มีผลต่อผู้ที่ทำฟาร์มเลี้ยงนกเขา และผู้เลี้ยงนกเขาชวาเสียง ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ อ.จะนะ
และที่สำคัญ นกเขาชวาเสียงที่ อ.จะนะ เป็นอาชีพ ที่ทำเงินให้คนเลี้ยงนก เจ้าของฟาร์มนก และอาชีพการทำอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการ เลี้ยงนกเขาชวาเสียง
ซึ่งมีรายได้หลายร้อยล้าน ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ และอาจจะมีรายได้หลักพันล้าน ถ้าเศรษฐกิจในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็น คู่ค้า อย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย บูรไน ดีขึ้น


ที่เราไม่มั่นใจ เพราะ ทราบว่า จะมีโรงงานเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นในพื้นที่ 17,000 ไร่ ซึ่งพวกเราคิดไม่ออกว่า จะเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ขนาดไหน หลายคนที่เคยไปดูงานที่ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กล่าวว่าจะเกิดเป็น โรงงานมากมาย เป็นเมือง ที่เต็มไปด้วยโรงงาน
แค่โรงงาน 2-3 โรง เรามั่นใจว่า ไม่มีปัญหากับการเลี้ยงนกเขาชวาเสียง แต่การเกิดขึ้นของโรงงานจำนวนมาก แม้จะเป็น อุตสาหกรรม ที่ เอกชน ผู้ลงทุนกล่าวว่า ไม่เกิดมลภาวะ แต่เราก็ยังหวั่นใจ เพราะโรงงานอาจจะไม่มีมลภาวะ แต่ในขณะที่มีการก่อสร้าง จะเกิดมลภาวะ หรือไม่
ตรงนี้ คือสิ่งที่ คนเลี้ยงนกเขาชวาเสียง ในพื้นที่ต้องการความมั่นใจ และต้องการให้ เอกชน ผู้ลงทุน ได้ฉายภาพรายละเอียดให้เห็นชัดๆ อีกครั้งหนึ่ง วันนี้พวกเราไม่ต้องการฟังจาก ศอ.บต. แล้ว แต่เราต้องการฟัง ต้องการพบปะกับ เอกชน ผู้เป็นเจ้าของโครงการ เพราะโครงการนี้ ไม่ใช่ของรัฐ แต่เป็นของ เอกชน 100 เปอร์เซ็น

คนเลี้ยงนกเขาชวาเสียง ไม่มีใครคัดค้านการที่ “เมืองต้นแบบที่ 4” จะเกิดที่ อ.จะนะ เพราะเชื่อว่าถ้าเกิดขึ้นจริง จะส่งผลดีกับอาชีพการเลี้ยงนกเขาชวาเสียง เพราะถ้าเศรษฐกิจดี การซื้อ-ขายนกก็ต้องดีตามไปด้วย
แต่เราต้องการความมั่นใจ ต้องการคำมั่นสัญญา ที่มีผลทางกฎหมาย และเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ผู้มีอาชีพเลี้ยงนก เจ้าของฟาร์มนก ในพื้นที่
สมมุติว่า การเลี้ยงนกเขาชวา ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงการก่อสร้าง หรือหลังจากที่มีการเดินเครื่องจักรแล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้รับการ คุ้มครอง การดูแล การชดเชย เช่นเดียวกับ ผู้ที่มีอาชีพอื่นๆ เช่น ประมงพื้นบ้าน และ ผู้ทำการเกษตร ที่มีการยื่นข้อเสนอกับบริษัทในการเรื่องการชดเชย
ในขณะที่ นายสมหมาย ขวัญทองยิ้ม นายกสมาคมนกเขาชวาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เชื่อว่า เอกชน ผู้ลงทุนในโครงการ”เมืองต้นแบบที่ 4”มีแผนในการให้รายละเอียด และการรับฟังประชาชนทุกสาขาอาชีพ ที่อยู่ในพื้นที่ 3 ตำบล ซึ่งโครงการนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนต่างๆอีกหลายขั้นตอน ตั้งแต่เรื่องของการ เปลี่ยนผังเมือง เรื่องของการทำ สิ่งแวดล้อม ดังนั้น ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงนกเขาชวาเสียงใน อ.จะนะ จึงต้องรอให้ขบวนการต่างๆ เดินไปตามขั้นตอน สุดท้าย เอกชน ผู้ที่เป็นเจ้าของโครงการ ต้องรับฟังข้อเสนอ ข้อคิดเห็น และสัญญาการ เยียวยา ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับอาชีพ เลี้ยงนกเขาชวาของคนในอำเภอจะนะ

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

You may have missed