รมว.ศธ. ส่งความห่วงใยให้นักเรียนในโรงเรียนบริเวณชายแดน
รมว.ศธ. ส่งความห่วงใยให้นักเรียนในโรงเรียนบริเวณชายแดน
ด้วยเหตุการณ์ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บริเวณชายแดนไทยติดกับประเทศเมียนมาร์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้ส่งความห่วงใยให้กับนักเรียนในโรงเรียนบริเวณชายแดน โดยให้ผู้ประสานงานหลักกระทรวงศึกษาธิการ ของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 เป็นผู้ส่งผ่านความห่วงใย
โดยในวันที่ 7 กันยายน 2563 ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติภารกิจในการติดตามการดำเนินงานเตรียมการป้องกันและรับมือการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และประชาสัมพันธ์งานของศูนย์คุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาซึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศ กระทรวงศึกษาธิการ (ศคพ.) ณโรงเรียนอนุบาลชุมพร จึงได้นำสเปรย์ แอลกอฮอล์ จำนวน 300 ขวด แทนความห่วงใย จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
พร้อมทั้งหน้ากากผ้าสำหรับเด็ก 1,000 ชิ้น จากเลขาธิการฯ กอศ. ชุดเครื่องเขียน 50 ชุด เลโก้ 50 ชุด จากสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และขาตั้งเจลแอลกอฮอล์ 2 ชุด จากกองพลพัฒนาที่ 4 มอบให้ทางคณะของศึกษาธิการจังหวัดชุมพร และคณะของศึกษาธิการจังหวัดระนอง เพื่อมอบให้โรงเรียนในพื้นที่ติดชายแดนในจังหวัดชุมพร และระนอง
ทั้งนี้ได้ดำเนินการมอบอุปกรณ์ต่าง ๆ มาแล้ว 4 จุด วันที่ 1 กันยายน ที่สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี เขต 3 วันที่ 6 กันยายน 2563 ได้แก่ ศึกษาธิการจังหวัดราชบุรีและสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา ราชบุรี เขต 1 สพป.เพชรบุรี เขต 1 และสพป.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2 รวมทั้ง ได้มีกำหนดที่จะเดินทางไป มอบของแทนความห่วงใย ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่และตากต่อไป ซึ่งครบ 10 จังหวัดชายแดนเมียนม่าร์
นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจง สร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจให้กับโรงเรียนและหน่วยงานทางการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการปิดหรือไม่ปิดสถานศึกษา กรณีเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือในกรณีพบผู้ป่วยยืนยัน ควรมีการวิเคราะห์กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มเสี่ยงต่ำ อีกทั้งต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างไม่ตื่นตระหนก
มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และที่สำคัญต้องสร้างความตระหนักให้กับนักเรียนในการจดบันทึกประจำวัน เพื่อประโยชน์ในการตีกรอบผู้ที่มีความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการปฏิบัติตามมาตรการหลัก 6 มาตรการ ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข อีกทั้งให้กำลังใจครูผู้สอนในการปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มกำลังและเต็มศักยภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาต่อไป
พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงถึงการดำเนินงานของ ศคพ. ซึ่งนำโดยนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นที่ปรึกษา ศคพ. ที่ทุ่มเทเสียสละ ทำงานนี้ เพื่อให้สถานศึกษาปลอดภัย และปลอดจากการคุกคามทางเพศอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นนโยบายหลัก ของ รมว. ศธ. โดยได้สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในกระบวนการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ที่กระทำความผิด การฟ้องร้อง และดำเนินการด้วยหน่วยเคลื่อนที่เร็วให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ผลงานที่ ศคพ. ได้ดำเนินการ เพื่อคุ้มครองนักเรียน อีกทั้งเน้นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานทางการศึกษา สหวิชาชีพ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียนของ ศคพ. กรณีมีการล่วงละเมิดทางเพศของครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสุดท้าย ได้รับฟังปัญหาที่สะท้อนจากบุคลากรในส่วนพื้นที่เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาและการดำเนินงานของกระทรวงเพื่อนำมาปรับและพัฒนางานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลอย่างรวดเร็วต่อไป
เจนกิจ นัดไธสง รายงาน