นราธิวาส-จับแล้ว แก็งทวงหนี้นอกระบบ ขู่เข็ญบังคับลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยโหด หลังลูกหนี้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก-ลก
นราธิวาส-จับแล้ว แก็งทวงหนี้นอกระบบ ขู่เข็ญบังคับลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยโหด หลังลูกหนี้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก-ลก
นางสาวเอ(สงวนนาม) ที่อยู่ตามภูมิลำเนาหมู่1 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พร้อมเพื่อนอีก4คน เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก -ลก กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการกู้ยืมเงินหนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายหนี้รายวันประมาณวันละ250บาท ตัดยอดทุกสิบวันโดยคิดดอกเบี้ย 1,000 บาท ต่อเดือนต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 4,000 บาท เมื่อชำระหนี้ไม่ทันจะมีบุคคลกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำการขู่เข็ญและบังคับให้หาเงินมาใช้หนี้รายวัน โดยบางครั้งมีการทำร้ายพวกตนด้วย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงเข้ามาร้องทุกข์หวังพึ่งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอสุไหงโก-ลกให้เข้ามาช่วยเหลือ
ภายหลังได้รับเรื่องร้องทุกข์ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้มอบหมายให้ นายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก พร้อม อส.ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก ลงติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของแก็งทวงหนี้นอกระบบกลุ่มนี้ และได้ทำการเรียกตรวจค้นรถยนต์เป้าหมาย ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน 8กฎ 8828 กรุงเทพมหานคร
ซึ่งมีผู้อยู่ภายในรถจำนวน 3คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายอภิศักดิ์ แข็งกสิกร นายกิติศักดิ์ รัศมี นายอธิวัฒน์ ธนัสเธียรโชติกร จากการตรวจค้นพบของกลางที่เกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบดังนี้ เงินสด จำนวน 3,070 บาท ที่ได้จากการเก็บดอกเบี้ย ประจำวันที่21สค.2563,บัญชีรายชื่อลูกหนี้,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Real me จำนวน 1 เครื่อง,รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีดำ จำนวน 1 คัน
จึงได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย พร้อมของกลางมายังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อทำการสอบสวนขยายผล ถึงผู้อยู่เบื้องหลังที่เป็นนายทุนใหญ่ แต่ผู้ต้องหาให้การที่ไม่เป็นประโยชน์ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลกเพื่อสืบสวนขยายผล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้ง3รายในคดี ร่วมกันเป็นบุคคลปล่อยเงินกู้ให้กับบุคคลอื่นผู้ยืมเงิน หรือการกระทำการ ใดๆอันเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินหรือเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ไว้โดยผิดกฎหมาย
นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวว่าพฤติกรรมของแก็งค์ทวงหนี้นอกระบบเป็นการข่มขู่คุกคาม และทำร้ายลูกหนี้เกินเหตุ อีกทั้งยังเป็นการปล่อยกู้โดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนด ซึ่งตามกฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15ต่อปี ดังนั้นจึงเป็นการท้าทายกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน จำเป็นต้องมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส