สมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ เข้าพบ ‘จับกัง 1’ หารือแนวทางจัดส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศหลังโควิดคลี่คลาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายกสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้ารับตำแหน่ง และรับทราบงานเร่งดวนที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2563 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นางสาวอรัญญา สกุลโกศล นายกสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้ารับตำแหน่งและรับทราบงานเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศของกระทรวงแรงงาน
ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ต้อนรับในครั้งนี้ด้วย โดยสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ ได้หารือในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ได้แก่ การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและระเบียบเพื่อให้เอื้อต่อการจัดส่ง การขยายตลาดแรงงาน และจำนวนตำแหน่งงานหากสถานการณ์โควิด – 19 ทั่วโลกคลี่คลายในปี 2564
นายสุชาติ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันกำหนดอนาคตประเทศไทยตามนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่จะผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน ทุกระดับในสังคม เข้ามามีส่วนร่วม และมีบทบาทเพื่อร่วมกันวางแผน ในการช่วยกันเร่งเยียวยาให้ภาคประชาชน ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19 กลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว ทั้งนี้ รมว.แรงงาน ยังได้มอบหมายให้กรมการจัดหางาน ไปพิจารณาศึกษารายละเอียดและจัดทำข้อมูลมาประกอบตามประเด็นที่สมาคมฯ ได้หารือในข้างต้นภายใน 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาคมฯ พบว่า โควตาแรงงานที่แต่ละบริษัทมีอยู่ประมาณ 10,000 ตำแหน่ง หากโควิด – 19 คลี่คลายได้เร็ว อาจทำให้มีตำแหน่งงานมากขึ้น เบื้องต้นควรเน้นไต้หวันที่เป็นตลาดใหญ่ จำนวนตำแหน่งงานหากสถานการณ์โควิด -19 ทั่วโลกคลี่คลาย ในปี 2564 คาดว่าจะมีตำแหน่งงานในแต่ละประเทศ ได้แก่
ไต้หวัน 30,000 คน สิงคโปร์ 20,000 คน เกาหลีใต้ (รัฐจัดส่ง) 15,000 คน อิสราเอล (รัฐจัดส่ง) 5,000 บาท ประเทศแถบยุโรปตะวันออก 5,000 บาท ตะวันออกกลาง 10,000 คน อาฟริกา 5,000 คน ญี่ปุ่น 5,000 คน เก็บผลไม้ป่าที่เดนมาร์ค และฟินแลนด์ 5,000 คน และประเทศอื่นๆ 5,000 คน รวมทั้งสิ้น 105,000 คน