เกษตรกรชาวอีสานแห่ให้กำลังใจ”อานนท์ แสนน่าน”และเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น”เรารักประเทศไทย”หลังถูกโจมตีจากกลุ่มสร้างความแตกแยกกับประเทศไทย

เกษตรกรชาวอีสานแห่ให้กำลังใจ”อานนท์ แสนน่าน”และเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น”เรารักประเทศไทย”หลังถูกโจมตีจากกลุ่มสร้างความแตกแยกกับประเทศไทย

 

วันนี้ (9 กรกฎาคม 2563) ณ หอประชุมเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ ทต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ประชาชนและชาวเกษตรกร 20 จังหวัดภาคอีสาน กว่า 500 คน เดินทางมาให้กำลังใจ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน เรารักประเทศไทย นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย และ ประธานเครือข่ายฯต่างๆ หลังจากมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีกับประชาชน และประเทศไทย ได้ออกมากล่าวหากลุ่มวิสาหกิจชุมชนในนาม “เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ว่ามีการแอบอ้างใช้อำนาจข่มขู่ข้าราชการ และ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีพิรุธไม่ถูกกฏหมาย โดยประชาชนและเกษตรกรส่วนใหญ่จะเป็นประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจาก 3,058 กลุ่มวิสาหกิจ ที่ได้ยื่นเสนอของบประมาณต่อรัฐบาลผ่าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ถึง ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชน เรารักประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ตนดีใจ ปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง และ ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนและเกษตรกรชาวภาคอีสานที่เดินทางมาให้กำลังใจตนและทีมงานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น”เรารักประเทศไทย”ในฐานะที่ตนเองเคยเป็นอดีตผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงและประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ก่อตั้งหมู่บ้านไปทั่วประเทศไทยรวมทั้งหมด 28,850 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่ในการต่อสู้ของหมู่บ้านเสื้อแดง จะไม่เหมือน กลุ่ม นปช.เพราะเราจะส่งเสริมให้ประชาชนในหมู่บ้านสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา นอกจากนั้นแล้วยังได้รวมตัวกันของกลุ่มเกษตรกรภายในหมู่บ้าน จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548

โดยเฉพาะกลุ่มเพาะเห็ด กลุ่มเลี้ยงโค กลุ่มเลี้ยงปลา กลุ่มเลี้ยงเป็ด-ไก่ และกลุ่มสินค้า OTOP ในช่วงสภาวะวิกฤตไวรัส covid-19 ระบาด กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละกลุ่มก็สามารถช่วยเหลือและประคับประคองตนเองได้ แต่การระบาดของโรคมี ระยะเวลานานหลายเดือน กลุ่มเกษตรกรที่เคยช่วยเหลือตัวเองได้ ก็ได้รับความเดือดร้อน และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแต่ละจังหวัดก็ได้มาปรึกษาตนเองพร้อมกับเข้าขอความช่วยเหลือ ต่อทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่เป็น “พี่ชายรัก” และทำงานร่วมกับรัฐบาล เพราะตนเองและสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงได้ยุบและสลายในการเป็นคนเสื้อแดงตั้งแต่หลังการปฏิวัติ ปี พ.ศ.2557 เปลี่ยนมาเป็น “หมู่บ้านเห็ด” จึงทำให้การเชื่อมโยงระหว่างตนกับทางรัฐบาลเกิดขึ้นได้ง่าย ผ่านทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี คัดสรรเอากลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีความพร้อมและดำเนินกิจการทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง แล้วต่อใบอนุญาตกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชน 2548 จำนวน 3,058 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จาก 20,850 หมู่บ้าน และเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินการอยู่แล้ว “ไม่ได้จดใหม่” อย่างที่ คุณศรีสุวรรณ กล่าวอ้างแต่อย่างใด

นายอานนท์ กล่าวอีกว่า หลังสภาวะวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาด และการยื่นเอกสารต่อทาง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตนได้ยื่นเสนอตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เพื่อเสนอพิจารณา และทางรัฐบาลเองก็ได้รับทราบพร้อมกับให้เจ้าหน้าที่กรม และ กระทรวงต่างๆ มาชี้แจงของการของบประมาณให้ถูกต้องตามระเบียบของสภาพัฒน์ ยังไม่มีการอนุมัติงบประมาณให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนออกมาใช้แม้แต่บาทเดียว เมื่อตนเห็นข่าวนี้ก็รู้สึกแปลกใจและเห็นใจกลุ่มเกษตรกรเป็นอย่างมาก ที่คุณศรีสุวรรณ ออกมาให้ข่าวเช่นนี้ เพราะวันนี้ทางรัฐบาลโดยการนำของ ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสมานฉันท์ ไม่สร้างความแตกแยก ทุกหมู่เหล่าให้ร่วมมือร่วมใจกันรวมพลัง “รวมไทยสร้างชาติ” เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินต่อได้ ที่สำคัญ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ก็ได้เน้นหนักกับตนเสมอว่าทางรัฐบาลมีความตั้งใจที่อยากจะช่วยประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน อยากให้มีการสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และ ยั่งยืนต่อไป

You may have missed