นิพนธ์ เล็ง ใช้ฟุตบอลเสริมสร้างความแข็งแกร่ง-ประสบการณ์ที่ดี ให้เด็กเยาวชน จ.สงขลา พร้อมเปิดการแข่งขันสรรเพชญคัพ ครั้งที่ 1

นิพนธ์ เล็ง ใช้ฟุตบอลเสริมสร้างความแข็งแกร่ง-ประสบการณ์ที่ดี ให้เด็กเยาวชน จ.สงขลา พร้อมเปิดการแข่งขันสรรเพชญคัพ ครั้งที่ 1

 


เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ 5 กันยายน 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เป็นประธาน เปิดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “สรรเพชญ พรีเมียร์คัพ 2020” โดยมีนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา นายถนอมศักดิ์ แป๊ะเซ่ง ประธานสาขาพรรค ปชป. เขต 1 สงขลา นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้ช่วยผู้ดำเนินงาน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน คณะกรรมการจัดการแข่งขัน คณะครู อาจารย์ ผู้จัดการทีม และนักกีฬาเข้าร่วมในพิธีเปิด ณ สนามฟุตบอล โรงเรียนเกาะแต้วพิทยาสรรค์
ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา


สำหรับ การจัดการแข่งขันฯครั้งนี้ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กเยาวชนประชาชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นการป้องกันปัญหาเรื่องยาเสพติดให้โทษ หันมาเล่นกีฬา ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และสร้างจิตสำนึกของการเป็นผู้เล่น ผู้ชมที่ดี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมภายในครอบครัว โดยในครั้งนี้เป็นการแข่งขันรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวนทั้งสิ้น 48 ทีม


นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “ตามที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “สรรเพชญ
พรีเมียร์คัพ 2020” ที่การแข่งขันฯมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน 2563 ณ สนาม ฟุตบอล โรงเรียนเกาะแต้วพิทยาสรรค์ นั้น กระผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “สรรเพชญ พรีเมียร์คัพ 2020”

ในวันนี้ ในส่วนของกระผมนั้น เป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬาอยู่ต่อเนื่อง และได้ทราบว่าในการจัดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้เข้าถึงการเล่นกีฬามากยิ่งขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ในจังหวัดสงขลาได้เห็นคุณค่า และความสำคัญของการออกกำลังกาย รู้จักใช้เวลาว่างในช่วงวันหยุดเรียนให้เกิดประโยชน์

โดยการนำกีฬามาพัฒนาเด็ก และเยาวชน ส่งผลให้ผู้เรียนมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ห่างไกลยาเสพติด สามารถเล่นกีฬาได้ถูกต้อง ตามกติกา และยังสามารถเป็นพื้นฐานและนำทักษะที่ได้รับในครั้งนี้ไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดี เพื่อนำไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ในวันข้างหน้า โดยเฉพาะทำให้รู้จักคำว่าแพ้ ชนะ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน จะเป็นการพิสูจน์ความสามารถของทีมฟุตบอลแต่ละทีม เพื่อจะได้มีโอกาสนำจุดเด่น และจุดด้อย เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขใหม่ในวันข้างหน้า

จึงขอโอกาสนี้ชื่นชมการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่งอย่างไรก็ตามกระผมขอฝากข้อคิดให้แก่นักกีฬาทั้งหลาย ว่าจงใช้กีฬาเป็นเครื่องกระชับไมตรี อย่าให้กีฬามาเป็นเครื่องทำลายความสามัคคี จงมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักให้อภัย และขอให้การ
จัดการแข่งขันในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุตามวัตถุประสงค์ทุกประการ”

นายปรีชา สถิตเรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

You may have missed