เมือง ไม้ขม ระหว่างเอาผิดกับการจัดมวยเพื่อการกุศล กับเอาผิด”คลัสเตอร์” สถานบันเทิง อะไรสำคัญกว่า

1_650x433

เมือง ไม้ขม

ระหว่างเอาผิดกับการจัดมวยเพื่อการกุศล กับเอาผิด”คลัสเตอร์” สถานบันเทิง อะไรสำคัญกว่า

 


วันนี้ ( 25 เมษายน 2564 ) นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้ที่ติดเชื้อ “โควิด 19” ใน จ.สงขลา แล้ว 399 ราย และยังมีเพิ่มขึ้นอีก เพราะยังมีกลุ่มคนอีกมาก ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงร่วมกิจกรรมต่างๆ และมีการระบุที่มาของ ผู้ติดเชื้อเช่นเดียวกับ”ไทม์ไลน์” ของ สาธารณะสุขจังหวัดสงขลา นั้นคือ “คลัสเตอร์” หรือ กลุ่มก้อนใหญ่มาจาก สถานบริการ หรือ สถานบันเทิง ที่ส่วนใหญ่อยู่ใน อ.หาดใหญ่ นั่นเอง


ส่วน”กลุ่มเสี่ยง” ที่มี คนเป็นห่วงกันมาก คือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ”จัดมวย”การกุศล “รวมพลคนจะนะ” เมื่อวันที่ 8-9 เม.ย.ที่ผ่านมา 200 กว่าคน ที่มีการตรวจหาเชื้อไปแล้ว ไม่ปรากฏว่า มีผู้ติดเชื้ออย่างที่มีการเป็นห่วง และแม้แต่”นักมวย”อย่าง ก้าวหน้า สจ.โต้ง ปราจีน” นักมวยที่มาชกในมหกรรมมวยที่จัดขึ้น ก็มีการปฏิเสธ ว่า ไม่ได้ติดเชื่อ”โควิด 19” จาก เวทีมวยที่จะนะ ”แต่ถึงแม้จะไม่มีผู้ติดเชื้อ ก็ยังมีการ”โจมตี” จาก กลุ่มคนที่”เห็นต่าง” และ เสียผลประโยชน์ ในเรื่อง”ที่ดิน” เรื่อง”การเมือง” เรื่อง ผลประโยชน์ ในพื้นที่เกี่ยวกับ โครงการเมืองต้นแบบที่ 4” ของ บริษัท “ทีพีไอ โพลีน “ด้วยการอยากให้ คนที่เกี่ยวข้องกับการ”จัดมวย” ติด”โควิด 19” เพื่อจะได้ “เอาผิด” กับ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้จงได้


ซึ่งแม้ว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ศอ.บต.) จะได้ ออกมาชี้แจงรายละเอียดต่างๆในการจัดมวยการกุศล “รวมพลคนจะนะ” ถึง วัตถุประสงค์ความจำเป็นที่ต้องจัดและรายได้ 1.4 ล้านบาท ที่ มอบให้เป็นทุนการศึกษา และการจัดเป็นไปตาม การอนุญาต ของ ผวจ.สงขลา ที่ให้เป็น เวทีปิดใช้การถ่ายทอด และ ไลฟ์สด มีขบวนการคัดกรอง ที่เป็นขั้นตอน อย่างถูกต้อง
แต่…ก็ยังมีผู้ที่”เห็นต่าง” ไปแจ้งความเพื่อ”เอาผิด” กับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดงานครั้งนี้จนผู้เป็นนายสนาม ได้ถูกสั่งเพิกถอน ใบอนุญาตการจัดมวยไปแล้วจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่กลุ่มผู้ที่”เห็นต่าง” ก็ยังเดินหน้าที่จะ”เอาผิด”ต่อไป เมื่อไม่สามารถ”เอาผิด” ในเรื่องคนติด”โควิด 19” ได้ ก็ยื่นเอาผิดในเรื่อง”ฝ่าฝืนการจัด” เมื่อ ผู้ว่าราชการจัดหวัด อนุญาตให้จัดได้ก็ยื่นเรื่อง เพื่อ”เอาผิด” ว่าการจัด ใช้งบประมาณของรัฐหรือไม่ รวมทั้งให้”เอาผิด” ในกรณีที่ การตรวจหาเชื้อ ผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในสนามมวยทั้ง 200 กว่าชีวิต ทำให้รัฐเสียงบประมาณค่าตรวจหาเชื้อคนละ 3,000 บาท เพื่อให้ผู้จัดมวยในครั้งนี้ รับผิดชอบ


เรียกว่า ไม่ได้อย่างหนึ่งก็จะเอาอย่างหนึ่ง ทำให้เห็นชัดว่า เป็นการ”จงใจ” ที่จะเล่นงานผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดมวยการกุศล” รวมพลคนจะนะ” ในครั้งนี้เหมือนกับเรื่อง “หมาป่ากับลูกแกะ”ในนิทาน อีสป ไม่มีผิด
ซึ่งหากจะไล่เรียงกลุ่มผู้ที่ออกมาแจ้งความ ออกมาร้องกับหน่วยงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นกับฝ่ายปกครอง โรงพัก ศูนย์ดำรงธรรม และต่อไปอาจจะที่ ศาลปกครอง ล้วนเป็นกลุ่มที่มี “ความรักความหลัง” กับคณะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ จัดมวย “รวมพลคนจะนะ” ไม่ประเด็นไดก็ประเด็นหนึ่ง
อาทิมีปัญหาทางการเมืองกับ นิพนธ์ บุญญามณี รมช. 2 มีปัญหากับ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.ปสช. เขต 8 ในกรณี เป็นคู่แข่งการเลือกตั้ง มีปัญหาเรื่องการเมืองท้องถิ่น ระหว่างกลุ่มผู้ชนะ ที่ใกล้ชิดกับ บริษัทผู้ที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการ”นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” กับกลุ่มที่ พ่ายการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่อยู่คนละฟากฝั่ง กับผู้ชนะ และ ผสมโรงโดย กลุ่ม เอ็นจีโอ ใหญ่ น้อย และประชาชนกลุ่มเล็กๆ ผู้ที่คัดค้าน นิคมอุตสาหกรรม หรือ เมืองต้นแบบที่ 4 ที่ อ.จะนะ

มีการพุ่ง”ปลายหอก” ไปที่ ศอ.บต. เพราะ ศอ.บต. เป็นหน่วยงานที่ เข้าไป ขับเคลื่อน เมืองต้นแบบที่ 4 หรือ นิคมอุตสาหกรรมจะนะ ตามคำสั่งของ รัฐบาล ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน คณะกรรมการด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( กพต.) เพื่อให้ “ยุติ” การขับเคลื่อน เมืองต้นแบบที่ 4 แห่งนี้
เรียกว่าการร้องเรียนของกลุ่มคนต่างๆ เพื่อให้มีการ”เอาผิด” ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง กับคณะกรรมการจัดมวย”รวมพลคนจะนะ” ในครั้งนี้ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่เรื่องของ”โควิด 19” แต่เอาเรื่อง”ส่วนตัว” เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องการ”แก้แค้น” และต้องการความ”สะใจ” ถ้าสามารถ”เอาผิด”กับ คนที่เป็น “คู่รักคู่แค้น” ของตนเอง เรื่องการ เคลื่อนไหวเพื่อ”เอาผิด”กับการจัดมวย” ที่ อ.จะนะ จึงเป็นประเด็นที่เห็น”เนื้อใน” ที่ ชัดเจน เพราะ “น้ำตื้น” และ”ใส” จนเห็นถึงความ”ล้อนจ้อน” ของแต่ละฝ่าย
ถ้าต้องการที่จะเอาผิด กับผู้ที่เป็นแหล่งหรือ”คลัสเตอร์” ในการแพร่เชื้อ”โควิด 19” ที่แพร่เชื้ออยู่ในจังหวัดสงขลาถึง 400 คน ผู้ต้องร้อง”เอาผิด”กับ สถานบันเทิงที่มีชื่อตามที่ สาธารณะสุขจังหวัดสงขลา เป็นผู้เปิดเผย ที่ปล่อยปละให้คนเข้าไป กินเหล้า เมายา ร้องเพลง เต้นระบำ และ”เอาผิด”กับ ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง ที่ไม่เข้มงวด สถานบันเทิง เหล่านั้น ทั้งที่เป็นสถานบันเทิง”เถื่อน” และไม่”เถื่อน” ถ้าทำอย่างนี้ จึงจะน่าชื่นชมว่า เป็นการ “ร้องเรียน เพื่อ”เอาผิด” แบบที่ไม่เลือก ปฏิบัติ และเพื่อประโยชน์ของ สังคม แท้จริง
เรื่องการจัดมวย”รวมพลคนจะนะ” ขณะนี้ สภ.จะนะ เจ้าของท้องที่ ได้รับเรื่องการแจ้งความเอาผิดกับ คณะผู้จัดไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการตั้ง คณะกรรมการเพื่อรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว เพราะในการจัดมวยการกุศล”รวมพลคนจะนะ” เป็นเรื่อง “เจตนาดี” ที่เป็นคุณกับประเทศชาติ และประชาชน มีการขออนุญาต และมีการ อนุญาต ให้จัดได้ จาก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา
ผู้เกี่ยวข้อง มีตั้งแต่ รัฐมนตรี, สส., แม่ทัพภาค 4 ,ผบช.ภ.9, เลขาธิการ ศอ.บต., รองเลขาฯ ผู้ช่วยเลขา, ผวจ.และ รอง ผวจ. ผบก.ภ.จว.สงขลา ผกก.จะนะ,ควนมีด นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัด, ผอ.รพ.จะนะ ฯลฯ ในภาคเอกชน ก็มีตั้งแต่ กลุ่มทุนผู้สนับสนุน จนถึง โปรโมเตอร์ผู้จัด หัวหน้าค่ายมวย ซึ่งคงใช้เวลาในการ สอบสวน กันนานพอสมควร ดังนั้น ผู้ร้อง จึงน่าจะพอใจ และรอฟังว่าสุดท้ายแล้ว ผิด ถูก อย่างไร
และที่สำคัญ วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือภาพรวมของผู้ป่วยทั้งที่ติดเชื้อแล้ว และที่ยังไม่แสดงอาการ ซึ่งตัวเลขคงไม่ได้หยุดอยู่ที่ 400 อย่างแน่นอน
และปัญหาที่ควรจะถามถึงคือ หลังความ”เสียหาย” ครั้งนี้ เมื่อมีการให้เปิด สถานบันเทิง สถานบริการ ครั้งใหม่ ฝ่ายปกครอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และฝ่ายตำรวจ จะดำเนินการควบคุม สถานบันเทิง สถานบริการ ที่ผิดกฎหมายไม่มีใบอนุญาต และที่มีอนุญาต ที่ค้ากำไร เกินควร โดยไม่ได้ ควบคุม สถานที่ ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
เพราะถ้าไม่มีการ”เอาจริง” แต่ยังปล่อยให้ เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมีการ”เอาส่วย” แทน รับรองได้ว่า “โควิด 19” รอบที่ 4 ต้องเกิดขึ้นในจังหวัดสงขลาอีกครั้ง เรื่องนี้ น่าสนใจ และน่าจะ สำคัญกว่า การที่จะ”เอาเป็น เอาตาย” กับการ”เอาผิด” กับ คณะบุคคลที่จัดมวยการกุศล”รวมพลคนจะนะ” เพื่อ มอบเงินให้ “นักเรียน” เป็นไหนๆ

You may have missed