แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำ ไม่ต้องรอคำสั่ง ทหารลงพื้นที่ทันทีหากเกิดเหตุและอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำ ไม่ต้องรอคำสั่ง ทหารลงพื้นที่ทันทีหากเกิดเหตุและอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น


วันนี้ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 09.40 น. ที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ที่ได้จัดตั้งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลกำแพงเพชร ที่ได้รับความเสียหายจากระดับน้ำที่ท่วมสูงในพื้นที่ 5 ตำบล คือตำบลกำแพงเพชร ตำบลคูหาใต้ ตำบลท่าชะมวง ตำบลเขาพระ และตำบลควนรู รวมถึงโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็ก และมีน้ำท่วมขังบนถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้าน และตามซอยต่าง ๆ เช่น ซอยวังอีคุย ,วัดหัวหลาด ซอยยนตรการกำธร 5 ยังมีระดับน้ำสูง โดยฝั่งขาออกจากอำเภอรัตภูมิ เข้าสู่ถนนเพชรเกษม รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ยังคงใช้ถนนฝั่งขาเข้าเพียงเส้นทางเดียว เป็นระยะทางกว่า 400 เมตร ในขณะที่สภาพน้ำในคลองตอนนี้ระดับน้ำยังคงมีปริมาณมาก


ต้องเฝ้าระวังน้ำที่สมทบมาจากพื้นที่อื่น สถานการณ์โดยรวมต้องรอการระบายน้ำออก เพราะฝนหยุดตกแล้วและเป็นลักษณะน้ำไหลผ่าน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 ได้จัดยุทโธปกรณ์ รถครัวสนามไว้บริการเครื่องดื่มและอาหาร พร้อมกำลังพลเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตั้งแต่วันแรกที่ระดับน้ำเริ่มเข้าพื้นที่ กระทั่งเมื่อคืนวันที่ (1ธ.ค.2563) ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ถึงวิกฤตระดับชั้นสีแดงส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงเร่งขนย้ายสิ่งของจำเป็นขึ้นบนที่สูง พร้อมเตรียมเคลื่อนย้ายคนออกจากพื้นที่ โดยมีการบูรณาการร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องจัดตั้งเวรยามเฝ้าระวังรับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง


ด้าน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ สถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในพื้นที่โดยรอบ อ.รัตภูมิ และใกล้เคียง เพื่อเข้าประชุมรับฟังสถานการณ์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ก่อนหารือแนวทางช่วยเหลือเร่งด่วน ยังเทศบาลตำบลกำแพงเพชร กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วน ผู้รับผิดชอบตั้งแต่ผู้ว่าราชการ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยทหารในพื้นที่ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่ง ผบ.ทบ.เองได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 4


เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือยุทโธปกรณ์และกำลังพลในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณะภัยที่เกิดจากอุกทกภัย อย่างทันท่วงทีเมื่อมีการร้องขอขสกพี่น้องประชาชน ซึ่งจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่แจ้งว่า ภายในวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 63 จะมีสภาวะฝนตกชุกในเขตภาคใต้ ก็ได้สั่งให้ทุกหน่วยได้เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นในบางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมฉับพลัน ทางหน่วยทหารที่อยู่ใกล้พื้นที่มากที่สุด ทางกองทัพบกก็ได้แบ่งกำลังเข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ในห้วงเวลานี้ ก็ให้แต่ละศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของกองทัพภาคที่ 4 เปิดระบบประชุมติดตามสถานการณ์ขึ้นทุกหน่วย เพื่อเตรียมการฉุกเฉินในกรณีที่มีน้ำป่าไหลมาจากภูเขาลงสู่พื้นราบได้ตลอด 24 ชั่วโมง


และขณะลงพื้นที่สำรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ ตำบลกำแพงเพชร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือหาทางออกให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยทหารโดยเฉพาะศูนย์บรรเทาสาธารณภัยแต่ละหน่วยพื้นที่รับผิดชอบ เฝ้าระวังพื้นที่ และให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน รวมไปถึงสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนที่มีฝนตกหนักมาอย่างต่อเนื่องทั้งจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ก็ได้แบ่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับหน่วยในพื้นที่เฝ้าระวังแล้ว ไม่ต้องรอคำสั่งจากหน่วยเหนือ ให้เร่งเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้โดยทันที
ขอบคุณภาพข่าวจากศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพภาคที่ 4
