นิพนธ์ ลุยน้ำท่วมโคราช บริหารจัดการมวลน้ำในพื้นที่ พร้อม เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยฯ ชี้รุนแรงสุดในรอบ 10 ปี สั่งการ เร่งสำรวจเพื่อช่วยเหลือเยียวยาทันที
นิพนธ์ ลุยน้ำท่วมโคราช บริหารจัดการมวลน้ำในพื้นที่ พร้อม เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยฯ ชี้รุนแรงสุดในรอบ 10 ปี สั่งการ เร่งสำรวจเพื่อช่วยเหลือเยียวยาทันที
วันนี้ (26 ต.ค 2563) ที่จังหวัดนครราชสีมา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่อำเภอโชคชัยและอำเภอพิมาย โดยได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจกับพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่บ้านไร่ ตำบลท่าอ่าง ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย และตำบลในเมือง อำเภอพิมาย
พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยฯ ทั้งนี้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดนครราชสีมามีทั้งสิ้น 14 อำเภอ 69 ตำบล 244 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 16,700 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 24 เส้นทาง สะพานชำรุด 12 แห่ง และวัดได้รับผลกระทบอีก6 แห่ง สำหรับพื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย อีกกว่า 6,800 ไร่
นายนิพนธ์ กล่าวว่า “นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมทุกพื้นที่ พร้อมทั้งได้สั่งการให้มีการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกหลังคาเรือน สำหรับในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากในรอบ10ปี แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภากาชาดไทย มูลนิธิต่างๆ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายลง”
“ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ช่วยกันดูแลจนถึงขณะนี้เข้าสัปดาห์ที่ 3 แล้วยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยถือว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด โดยได้ถอดบทเรียนจากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมาในส่วนของทรัพย์สินที่เสียหาย กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเยียวยาช่วยเหลือไว้แล้วตามระเบียบของทางราชการ ดังนั้น หากประสบภัย หรือประสบความเดือดร้อน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รวบรวมข้อมูล เพื่อประกอบการขอความช่วยเหลือต่อไป” นายนิพนธ์กล่าว
จากนั้นเวลา 14.00 น. นายนิพนธ์ รมช.มท. พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณมวลน้ำของเขื่อนพิมาย(โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์) ในพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมได้สั่งการให้จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการเพื่อวางแผนจัดการน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งเพราะภัยธรรมชาติต้องวางแผนคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อลดความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด เพื่อประชาชนจะมีน้ำอุปโภค บริโภคไม่ขาดและบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยเน้นให้ทำงานเชิงรุก บูรณาการการทำงานร่วมกัน ยึดหลักบำบัดทุกข์บำรุงสุขบรรเทาปัญหาให้ประชาชนเป็นหลัก เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา