นิพนธ์ ย้ำ อธิบดี ผู้ว่าฯทั่วประเทศ คนมหาดไทย ต้องทำได้ทุกอย่าง เพื่อ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พี่น้องประชาชน

นิพนธ์ ย้ำ อธิบดี ผู้ว่าฯทั่วประเทศ คนมหาดไทย ต้องทำได้ทุกอย่าง เพื่อ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่พี่น้องประชาชน

 

 

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.63) ที่ ห้องวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานการมอบนโยบายและประชุมขับเคลื่อนและติดตามนโยบายและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 พร้อมด้วย นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนน เวชกรกานนท์ ประธานคณะทำงาน รมช.มท. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมรับมอบนโยบาย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเน้นการขับเคลื่อนงานยึดหลักการทำงานเชิงรุก เข้าถึงปัญหา รอบรู้ รับผิดชอบภารกิจทั้งในเชิงนโยบาย อำนาหน้าที่ และ พื้นที่ โดยต้องใช้ กลไกมหาดไทยทั้งท้องที่ และท้องถิ่น ตอบสนองการขับเคลื่อนภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” โดยยึดประโยชน์ของสาธารณะและความต้องการของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ด้วยกลไกการขับเคลื่อนการทำงานของมหาดไทย ตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ นายอำเภอ ใช้กลไกท้องที่ ท้องถิ่น ต้องตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลใน การบำบัดทุกข์ บำบัดสุขให้กับประชาชน และสร้างการรับรู้ให้ ประชาชนในระดับพื้นที่ในเรื่องสำคัญต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับ การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาในระดับพื้นที่ ซึ่งต้องทำให้ มีความเข้มแข็ง โดยยึดถือความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ด้วยการนำความต้องการของประชาชนสะท้อนไปถึงระดับนโยบาย

โดยให้ความสำคัญกับการติดตาม เฝ้าระวัง วิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ การแจ้งเตือนภัยให้ถึงระดับชุมชน หมู่บ้าน เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีแนวโน้มว่าจะเกิดอุทกภัย ดินโคลนถล่มในพื้นที่ ให้ดำเนินการอพยพประชาชน ตามแผนการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยเร็ว โดยให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งจัดให้มีสิ่งของจ้าเป็นในการดำรงชีพ การแจกจ่าย ถุงยังชีพให้ครอบคลุม ทั่วถึง ตลอดจนให้พิจารณาจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ตามระเบียบและหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญในเรื่องนี้คือการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้แนวทาง”สร้างที่ให้น้ำอยู่ ทำทางให้น้ำไหล” เพื่อการจัดการอุทกภัยและภัยแล้งได้อย่างยั่งยืน

สำหรับเรื่องการดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนนั้น ถือเป็นวาระสำคัญของประเทศที่ จังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ต้องดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วน โดยใช้กลไกตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พ.ศ.2554 (ศปถ.จังหวัด ศปถ. อำเภอ และ ศปถ.อปท.) ในการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เน้นย้ำให้กำหนดแนวทางการดำเนินการให้สอดคล้องกับสถานการณ์และมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID-19) ส่งเสริมให้ “ท้องที่และท้องถิ่น” เชื่อมโยงการดำเนินงานควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่โดยให้ทุกจังหวัดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้เรื่องความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้น จริงจัง ต่อเนื่อง เน้นการดำเนินการเชิงรุก กำหนดให้รูปแบบเนื้อหาที่น่าสนใจครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การลดความสูญเสียบนท้องถนนให้ได้ในที่สุด

อีกประการหนึ่งที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนและเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน คือ เรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน โดยรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทั้งนี้ ให้ผวจ.และกลไกมหาดไทยเร่งดำเนินการ ทั้งเรื่องการแก้ไขการบุกรุกที่ดินของรัฐตามแนวทางของคทช. การเร่งรัดดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตามที่ได้ประกาศ รวมทั้ง การจัดสรรที่ทำกินแก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่ ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรของชาติร่วมกัน นำไปสู่การลดปัญหาทางสังคม ปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงถือว่า เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญที่กระทรวงมหาดไทยต้องเข้าไปดูแลอย่างทั่วถึง

 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

//////