( รายงานพิเศษ )  ต้องยอมรับความจริงอย่าง”หน้าชื่นตาบาน” ว่า 16 ปี ของการเกิดความรุนแรงจาก”ไฟใต้”

( รายงานพิเศษ )  ต้องยอมรับความจริงอย่าง”หน้าชื่นตาบาน” ว่า 16 ปี ของการเกิดความรุนแรงจาก”ไฟใต้” ละลอกใหม่ ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา อันได้แก่ อ.จะนะ,เทพา,นาทวี และ สะบ้าย้อย นอกจากสร้างความสูญเสีย ให้กับ เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน ทั้งในเรื่องของ ชีวิต และ ทรัพย์สิน อย่างใหญ่หลวงแล้ว

 

ในแวดวงของ”พุทธศาสนา” ในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ก็ได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจประเมินค่า “พระคุณเจ้า” หลายรูป ต่างตกเป็น”เหยื่อ” ของสถานการณ์ความขัดแย้ง ถูก เข่น ฆ่า จากฝีมือของ”แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่มี”บีอาร์เอ็น” เป็น”แกนนำ” วัดหลายแห่งถูก”คุกคาม” จน”พระสงฆ์” ไม่อาจจะที่”จำวัด” ได้ ต้อง”อพยพ”ออกจากพื้นที่ จนเป็นเหตุให้มี”วัดร้าง” เกิดขึ้นหลายแห่งในหลายพื้นที่

ซึ่งพอจะสรุปได้ว่า มีวัด 306 สำนักสงฆ์ 22 แห่ง และที่พักสงฆ์ 63 รวมทั้ง วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ 386 แห่ง และที่กลายเป็นวัดร้าง เพราะ พระสงฆ์ ไม่กล้าที่จะอาศัยอยู่ เพราะเกรงอันตราย และอยู่ไม่ได้เพราะคนไทยพุทธ ที่อยู่ในพื้นที่ “อพยพ” ออกจากพื้นที่ จนพระสงฆ์ ไม่สามารถ ปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ได้ จำนวน 16 แห่ง
แม้ว่า ในหลายปีที่ผ่านมา วัด และพระ อาจจะถูก กระทำ จาก แนวร่วมน้อยลง แต่ ปฏิบัติการ ที่มีต่อ วัด และ พระสงฆ์ ก็ยังเป็น เป้าหมายของ บีอาร์เอ็น เพราะล่าสุดมี วัดที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ถูก แนวร่วม บุกเข้าไปกราดยิง จนทำให้ เจ้าอาวาส มรณภาพ 1 ศพ และมีพระในวัด บาดเจ็บสาหัสอีก 2 รูป


เพราะฉะนั้น วัด และ พระ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ “บวรพุทธศาสนา” ในพื้นที่ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ยังอยู่ในสภาพที่”เปราะบาง” และ”ถดถอย” เช่นเดียวกับกลุ่ม”ไทยพุทธ” ที่มีอยู่หลายชุมชน ที่อยู่ในสภาพ”ถดถอย” จน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต. ต้องทำแผนในการนำ”ไทยพุทธคืนถิ่น” เพราะการ รักษาแผ่นดินในจังหวัดชายแดนภาคใต้
การสร้าง ขวัญ กำลังใจ และ “ศรัทธา” ต่อ บวรพุทธศาสนาในพื้นที่ เพื่อให้ดำรงอยู่อย่างมั่นคง และเพื่อเป็น”ที่ยึดเหนี่ยว”ของคน”ไทยพุทธ” ในพื้นที่ จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในยามที่”พุทธศาสนา”ถูกรุกราน และมีเรื่องเสื่อมเสีย ของ พระภิกษุ เป็นข่าวในหน้า”สื่อ” มาโดยตลอด
เมื่อปี 2559 พุทธสมาคมจังหวัดยะลา ซึ่งมีนายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธ์ เป็นนายกสมาคม ได้ดำเนินการสร้างขวัญ และกำลังใจให้กับพระผู้ประพฤติดีปฏิบัติดี ด้วยการทำกิจกรรมยกย่องเพื่อเป็นแบบอย่างในชื่อว่า “พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี”ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะมีการ”ถวายโล่เกียรติคุณ” ให้กับ พระผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระที่ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่ผู้คนสมควร”กราบไว้”แล้ว ยังมีพิธีการต่างๆ อย่างสมเกียรติ และมีการนำนักเรียน นักศึกษา มาอ่านทำนอง”สรภัญญะ” และในปี 2560 พุทธสมาคมจังหวัดนราธิวาส ก็ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นปีที่ 2 และ พ.ศ.2561 จังหวัดปัตตานี ได้สืบทอดจัดกิจกรรมนี้เป็นจังหวัดที่ 3 โดยมีพระผู้ใหญ่ที่ผ่านการเห็นชอบจาก คณะสงฆ์ ในแต่ละจังหวัดเป็นผู้ คัดเลือก”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” เพื่อเป็นแบบอย่าง ในการ ยกย่อง และประกาศให้ผู้คนในสังคมได้รับรู้


สำหรับ กิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” ในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ 4 นั้น นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ที่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.)ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความ มั่นคงให้กับ บวรพุทธศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดขอบของ ศอ.บต. ด้วยการสนับสนุนงบประมาณ ให้กับพุทธสมาคมจังหวัดยะลา เป็นผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีกำหนดการจัดกิจกรรมนี้ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศาลาการเปรียญ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เขตเทศบาลนครยะลา
ซึ่งนายวิชัย เรืองเริงกุลฤทธิ์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดยะลา กล่าวว่า ที่ผ่านมา กิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” จัดขึ้นโดยพุทธสมาคมแต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ แต่ครั้งนี้ ได้หารือร่วมกับ ศอ.บต. และ เห็นชอบให้จัดพร้อมกันทั้ง 5 จังหวัด โดยพุทธสมาคมจังหวัดยะลาเป็นผู้รับผิดชอบ


ซึ่งกิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ ศาลาการเปรียญ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง เทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ประกอบด้วย 08.30 น.พระสงฆ์พุทธศาสนิกชน พร้อมกัน ณ ศาลาการเปรียญ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง หลังจากนั้นประธานในพิธี พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย คณะสงฆ์พุทธศาสนิกชนประกอบพิธี ขอขมาพระเดชพระคุณ”ผู้สมควรกระทำอัญชลี” 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานถวายโล่เชิดชูเกียรติ พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พิธีกรอาราธนาศีล ประธานสงฆ์ให้ศีล พิธีกรอาราธนา พระปริตร พระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระพรหมจริยาจารย์เจ้าคณะใหญ่หนใต้กล่าวสัมโมทนียคาถา ประธานผู้มีเกียรติถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระภิกษุสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำ รับพร
เวลา 10.00 น.ตัวแทนนักเรียน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 240 คน นำสวดมนต์สรภัญญะ ประธานมอบเกียรติบัตรของที่ระลึกแก่ตัวแทนนักเรียน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนนายกพุทธสมาคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กล่าวขอบคุณผู้มีเกียรติ พุทธศาสนิกชนผู้รวมกิจกรรมยกย่องพระเถระ”ผู้ควรกระทำอัญชลี” มอบของที่ระลึกผู้มีเกียรติ พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมกิจกรรมยกย่องพระเถระ”ผู้ควรกระทำอัญชลี” 10.00 น.ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์ ผู้มีเกียรติพุทธศาสนิกชนบุคคลทั่วไป ครู นักเรียน ร่วมรับทานอาหาร และเป็นอันเสร็จพิธี ซึ่งในการจัดกิจกรรม ครั้งนี้ จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 3,000 คน

พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า กิจกรรมการยกย่อง” พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” ที่ พุทธสมาคมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เป็นกิจกรรมที่ดี ที่ต้องยกย่อง ในส่วนของ ศอ.บต. นั้น หลังจากที่ นายกพุทธสมาคมจังหวัดยะลา ได้หารือเพื่อให้ ศอ.บต. มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว ก็เห็นชอบในทันที เพราะเรื่องการ จัดกิจกรรม ส่งเสริมเรื่องของศาสนาพุทธ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องจำเป็น ศอ.บต. มีกิจกรรม เกี่ยวกับการส่งเสริม พระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ตาม แผนงาน ของแต่ละปีงบประมาณ แต่เมื่อพุทธสมาคมเสนอโครงการการทำกิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี”เพื่อให้ ศอ.บต. สนับสนุนงบประมาณ ก็เห็นชอบ ทั้งที่ไม่ได้มีการตั้งงบประมาณไว้ แต่ต้องดำเนินการให้ได้ เพราะการจัดกิจกรรมแบบนี้ เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่ต้องกระทำ และเป็นหน้าที่ของ ศอ.บต. ที่ต้องหางบประมาณมาเพื่อสนับสนุน ซึ่งขอชื่นชม นายกพุทธสมาคมทั้ง 5 จังหวัด ที่ได้ดำเนินการจัด กิจกรรมยกย่อง”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี”มาถึง 3 ปี ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจการสร้างความเข็มแข็งให้กับ พระ วัด และคนไทยพุทธ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่”เปราะบาง” ที่ต้องร่วมมือกันทุกภาคช่วย ในการสร้างความมั่นคงให้กับ บวรพุทธศาสนา
สำหรับพระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี ซึ่งคณะสงฆ์ของแต่ละจังหวัดเป็นผู้คัดเลือกให้เป็น”พระเถระผู้ควรกระทำอัญชลี” นั้น 1 พระราชศีลสังวร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสงขลา-สตูล ( ธ ) เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส จ.สงขลา 2 พระราชปัญญามุณี เจ้าคณะจังหวัดยะลา เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน จ. ยะลา 3 พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี เจ้าอาวาสวัด ตานีนรสโมสร พระอารมหลวง จ ปัตตานี 4 พระครูรัตนคุณาภรณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลคอหงส์ – รัตภูมิ ( ธ ) เจ้าอาวาสวัดป่ามะนังชโลธร จ.สตูล 5 พระครูสถิตศีลขันธ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส เจ้าอาวาสวัดโบราณสถิต จ.นราธิวาส

ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา