สมาชิกวุฒิสภา โฆษกกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จี้ แม่ทัพภาคที่ 4 เร่งปรับงานการข่าว การซีลชายแดน แม่น้ำสุไหงโก-ลก และการ จับกุม”แนวร่วม” ในพื้นที่เพื่อหยุดการ ก่อการร้าย จาก บีอาร์เอ็น

สมาชิกวุฒิสภา โฆษกกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา จี้ แม่ทัพภาคที่ 4 เร่งปรับงานการข่าว การซีลชายแดน แม่น้ำสุไหงโก-ลก และการ จับกุม”แนวร่วม” ในพื้นที่เพื่อหยุดการ ก่อการร้าย จาก บีอาร์เอ็น
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา จ.สงขลา ในฐานะของ โฆษก และ เลขานุการ คณะกรรมาธิการทหาร และความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ได้กล่าวถึงการ”ปล้นร้านทองเยาวราช” ที่ตั้งอยู่ในห้างบิ๊กซี ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดย กองกำลังติดอาวุธ” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” เป็นผู้ก่อเหตุ ได้ทองไปถึง 600 บาท และมีการ วางระเบิดแสวงเครื่อง เพื่อ ข่มขู่ เจ้าหน้าที่ ไม่ให้ติดตามจับกุมว่า
จากการ สืบสวน คนร้าย ส่วนหนึ่ง ข้ามแม่น้ำสุไหงเก-ลก มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ดดยประสานงานกับ”คนร้าย” ที่เป็น”กองกำลังติดอาวุธ”ที่ เคลื่อนไหว อยู่ในพื้นที่ของ จ.นราธิวาส ซึ่งมี องกำลังติดอาวุธ กระจาย ในพื้นที่ เชิงเขา ไม่ต่ำกว่า 50 คน โดยมี”แนวร่วม” ใน หมู่บ้าน ในชุมชนเมือง ซึ่งมีการจัดตั้งหมู่บ้านละ 6 คน เป็น”สายลับ” ในการ รายงานความเคลื่อนไหว ของ เจ้าหน้าที่ และรวมวางแผน ในการเข้าปล้นร้านทองครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตาม แผนปฏิบัติการ ที่ บีอาร์เอ็น” ประกาศว่าจะทำลาย “เศรษฐกิจ” ของ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
มีการวางแผนล่วงหน้า ในการ กำหนดพื้นที่การเข้าไป ปล้นรถยนต์กระบะ 2 คัน ใน ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 10 กว่ากิโลเมตร มีการกำหนดเส้นทาง หลบหนี หลังการปล้น ไปยัง ๖งกายูคละ อ.แว้ง ซึ่งหางออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร และกำหนดจุด วางระเบิดแสวงเครื่อง 2 จุด เพื่อ สกัดการติดตามของ เจ้าหน้าที่ ทุกอย่างเป็นการวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอนใลช้เวลากว่า 10 วัน โดยกำหนดการปล้นในตนเดือนตุลาคม ที่เป็นช่วงการเข้ามารับตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 4 ของ พล.ต.นรธิป โพยนอก” ซึ่งย้ายมาจาก” รองแม่ทัพภาคที่ 2
จุดอ่อน ของ” เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และ กอ.รมน.ภาคที่ 4 ส่วนหน้าคือเรื่องของ การข่าว ที่ไม่มีรายงานข่าวความเคลื่อนไหว ของ”แนวร่วม” ทั้งในพื้นที่ และ กองกำลังติดอาวุธ ทั้งที่ เคลื่อนไหว ในพื้นที่ และที่ข้ามมาจาก รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ประเด็นนี้คือ”จุดอ่อน” ที่ทำให้การ”ป้องกันเหตุ ของ แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ต้องมีการ”ปรับปรุง” งาน การข่าว ให้เข้าถึง แหล่งข่าว ของ บีอาร์เอ็น และ งบการข่าว หลายสิบล้านบาท ของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องไม่ กระจุกตัว อยู่ที่ “ผบ.พัน” และ” ผบ.พลไ ต้อง กระจายไปยัง เจ้าหน้าที่การข่าว ในพื้นที่
และ ต้องมีการ”ซีล” แนวชายแดนแม่น้ำ สุไหงโก-ลก ตั้งแต่ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง ซึ่งเป็น จุดอ่อน เป็น เส้นทาง ทั้งใน เข้าออกก่อเหตุ และการ หลบหนี หลังการก่อเหตุ จะต้องเพิ่มจุดตรวจ หรือ ต้อง ทำรั้วถาวร เพิ่มขึ้น ก็ต้องทำ เพื่อเป็นการ สกัดจุดอ่อน ของการ ป้องกัน มิให้มีการก่อเหตุ
และ กำลังของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ รับผิดชอบ ในพื้นที่ของ แต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัด ต้อง “สืบค้น” และ”จับกุม” บรรดา แนวร่วม ที่มีการ จัดตั้ง โดย บีอาร์เอ็น ในทุกหมู่บ้าน โดยพาะหมู่บ้าน เข้มแข็ง หมู่บ้านละ 6 คน รับผิดชอบงาน 6 ฝ่าย ในการ ประสานงานกับ กองกำลังติดอาวุธ” ที่มีความพร้อมในการก่อเหตุต่อ เป้าหมาย ที่ต้องการ ถ้า “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ไม่สามารถ กำจัด จุดอ่อน ที่เกิดขึ้นให้ได้ผล ก็จะไม่สามารถ ดับไฟใต้ ที่ ลุกโชนมา 21 ปี อย่างแน่อน วุฒิสมาชิก กรรมธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ กล่าว
นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
